โรงเรียนสอนภาษา

No Gravatar

นักเรียนที่ต้องการฝึกการใช้ภาษามักจะเลือกประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นอันดับแรก ปัจจัยอย่างหนึ่งที่ให้มีนักเรียนมาศึกษาที่สหรัฐมากก็คือ ความหลากหลายของที่นี่ไม่ว่าจะเป็นพลเมืองที่มีหลายเชื้อชาติ อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติและความเจริญทางด้านเทคโนโลยี

การ เรียนการสอนจะแยกนักเรียนออกจากกันอย่างชัดเจนตามความประสงค์ของนักเรียน อาจารย์เอาใจใส่ต่อนักเรียนและดูแลทั่วถึงโดยทั่วไปอาจารย์หนึ่งท่านจะดูและ นักเรียนประมาณ 5-8 คน และบรรยากาศการเรียนไม่น่าเบื่อ อาจารย์พยายามสร้างบรรยากาศให้นักเรียนสนใจเรียน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้คนที่มาเรียนภาษาในสหรัฐได้รับประโยชน์อย่างยิ่ง คุ้มค่ากับค่าเล่าเรียน

นัก เรียนไทยหลายคนเลือกมาเรียนภาษาที่สหรัฐอเมริกาก่อนที่จะเข้าศึกษาต่อใน ระดับอุดมศึกษาเพราะการเรียนที่นี่ได้ผลเป็นอย่างยิ่ง เน้นการสอนเพื่อให้นักเรียนมีพื้นฐานความรู้ทางภาษาอังกฤษให้สามารถนำไปใช้ งานได้ในชีวิตประจำวันได้และเพื่อเป็นประโยชน์ในการสอบ TOEFL เพื่อเข้าเรียนต่อในสถาบันอุดมศึกษาในสหรัฐ

โดย ทั่วไปสถาบันอุดมศึกษาจะมีโรงเรียนสอนภาษาเป็นองค์กรหนึ่งอยู่ด้วย ซึ่งสามารถค้นหาข้อมูลได้ในโฮมเพจของสถาบันนั้นๆ ซึ่งควรจะเลือกเรียนภาษาในกับ College หรือ University โดยตรงเพราะคุณจะมีสิทธิ์เป็นนักศึกษาของสถาบันนั้นไปโดยปริยายและแสดงถึง ความตั้งใจจริงในการที่จะเรียนภาษาอังกฤษเพื่อศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาหรือ สูงกว่า ซึ่งจะเป็นเหตุผลอย่างหนึ่งที่จะได้รับอนุมัติวีซ่าจากสถานฑูตสหรัฐ

นอก จากนั้นในช่วงปิดเทอมนักเรียนไทยจำนวนมากเลือกมาเรียนภาษาอังกฤษที่สหรัฐ นอกจากจะได้รับความรู้แล้วยังถือโอกาสท่องเที่ยวไปด้วย และโรงเรียนจะจัดนำนักเรียนท่องเที่ยวประมาณหนึ่งครั้งต่อหลักสูตร

ระยะเวลา

ระยะประมาณแปดสัปดาห์ต่อ หนึ่งหลักสูตร ในแต่ละวันจะเริ่มเรียนประมาณ 9.00 AM- 3.00PM บางโรงเรียนในวันศุกร์จะเรียนเฉพาะในช่วงเช้า และจะมีการพักระหว่างเรียนประมาณ 10 นาที่ ซึ่งในแต่ละวันก็จะเรียนทั้งการใช้ไวยากรณ์(Grammar) การอ่านการเขียน(Reading/Writing)และการฟังการพูด(Listening and Speaking)

ค่าใช้จ่าย

ค่าใช้จ่ายจะแพงกว่าในเมือง ไทยซึ่งหากนักเรียนบางคนที่มีความประสงค์จะทำงานในสหรัฐหลังจากจบการศึกษา ควรเรียนมีทักษะในการใช้ภาษาให้ดีก่อน การสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด โดยทั่วไปค่าลงทะเบียนประมาณ 1800-2500 ต่อหนึ่งหลักสูตร หลักสูตรกินระยะเวลาประมาณ 2-3 เดือน เฉลี่ยแล้วต้องจ่ายค่าเรียนประมาณเดือนละ 1000 เหรียญสำหรับนักเรียนต่างชาติ ช่วงระยะเวลาปิดเทอมในแต่ละหลักสูตรก็ประมาณ 1-2 อาทิตย์(ในกรณีที่เรียนโรงเรียนเดิม) สำหรับผู้ที่ต้องการย้ายโรงเรียนก็มีระยะเวลา 60 วันในการลงทะเบียนเรียนต่อ(ในใบ I20 ระบุเอาไว้ในหัวข้อ Transfer I20)

ที่พัก

บางโรงเรียนจะจัดหาที่พักให้กับนักเรียนเอง โดยมีหอพักสำหรับนักศึกษาและอยู่กับครอบครัวอเมริกันให้เลือก

การพักอาศัยในหอพักนักศึกษา

ข้อดี: มีเพื่อนเป็นชาวต่างชาติได้เรียนอุปนิสัยของเพื่อนแต่ละคน
ข้อเสีย: ค่าใช้จ่ายแพงที่สุด และหากจะฝึกภาษากับเพื่อนต่างชาติด้วยกันก็คงไม่ค่อยดีเท่าไรเพราะเขาก็กำลังฝึกการใช้ภาษาด้วยเช่นกัน

การพักอาศัยกับครอบครัวอเมริกัน

ข้อดี: ได้เรียนรู้สภาพชีวิตครอบครัวอเมริกัน(โรงเรียนภาษาเป็นคนจัดหาให้), ฝึกภาษากับเจ้าของภาษา, ค่าใช้จ่ายถูกกว่าการอาศัยในหอพัก
ข้อเสีย: ความเป็นอยู่ไม่สะดวกนักสำหรับบางคน อาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวค่อนข้างนาน บางคนอยู่ไม่ได้

การพักอาศัยกับเพื่อนหรือคนรู้จัก

ข้อดี นักเรียนไทยโดยส่วนใหญ่จะติดต่อกับเพื่อนหรือคนรู้จักเพื่อให้หาที่พักให้ หรือพักอยู่กับเพื่อน ซึ่งวิธีเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด ค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด ในกรณีที่นักเรียนต้องการเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาในสหรัฐนั้น มีหลายอย่างที่ต้องทำเพราะเรากำลังจะเป็นส่วนหนึ่งของคนอเมริกัน ดังนั้นขั้นตอนการเรียนรู้อาจจะต้องได้รับจากคนที่มีประสบการณ์มาก่อน วิธีนี้เหมาะสำหรับนักเรียนที่มีความตั้งใจที่จะเข้าศึกษาต่อในระดับอุดม ศึกษาต่อไป
ข้อเสีย: การฝึกการใช้ภาษาอาจจะไม่ดีนักในช่วงแรกๆ(ถ้าเป็นไปได้ตกลงกันก่อนก็จะดีเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษในการสนทนา) นัก

party

ขั้นตอนการสมัครเรียนโรงเรียนภาษาในสหรัฐ

  1. ค้นหาข้อมูลโรงเรียนภาษาตามสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งจะดีกว่าโรงเรียนภาษาอื่นๆที่ไม่ได้สังกัดสถาบันอุดมศึกษา
  2. ควรสอบถามจากบุคคลที่เคยมีประสบการณ์มาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่งจดหมายไปยังสมาคมนักเรียนไทย เพื่อสอบถามข้อมูลให้แน่นอน และเพื่อป้องกันความผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง หรือการหาที่พักอาศัย
  3. ส่งจดหมายสมัคร ซึ่งสามารถส่งจดหมายสมัครได้สองวิธี ซึ่งโรงเรียนสอนภาษาต้องการแบบฟอร์มที่เรากรอกเรียบร้อยและหลักฐานทางการ เงิน(financial statement) หลักฐานทางการเงินสามารถขอได้ที่ธนาคารกรุงไทยสำนักงานใหญ่ สุขุมวิทซอย 3 ในกรณีที่เป็นลูกค้าธนาคารกรุงไทยเบอร์โทรส่วน Int’l Guarantee Div.2568513,2084330-3, 2552222 หรือที่ธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่ สีลม
    1. ส่งผ่านอินเทอร์เน็ต โดยกรอกแบบฟอร์มในเว็บนั้น แต่เรื่องการส่งเงินค่าสมัครก็ต้องดูว่าเขาต้องการยังให้เราส่งวีธีใด อาจจะเป็น เครดิตการ์ด หรือทางไปรษณีย์
    2. พิมพ์แบบฟอร์มนั้นลงเครื่องพิมพ์จากนั้นกรอกแบบฟอร์มพร้อมเงินค่าสมัคร ซึ่งอยู่ในรูปของดราฟท์(Draft) ส่งไปพร้อมกัน
  4. รอรับแบบฟอร์ม I20 จากโรงเรียนเมื่อได้รับแล้วนำแบบฟอร์มดังกล่าวก็นำไปขอวีซ่าที่สถานฑูตสหรัฐ ประจำประเทศไทย ถนนวิทยุ โดยสามารถดูรายอะเอียดก่อนไปยื่นได้ที่เว็บไซต์ของสถานทูต ต้องยื่นแบบฟอร์มเพื่อขอวีซ่าแบบเอฟ 1(F 1)ซึ่งมีค่าธรรมเนียมในการยื่นคำร้องประมาณ 1600 บาทและในกรณีที่ได้รับการอนุมัติวีซ่าก็จะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มอีกประมาณ 600 บาทและเปิดการรับยื่นคำร้อง 7.00-9.00 น. ขั้นตอนการอนุมัติอาจจะใช้เวลาวันเดียวหรือสองวัน โดยทั่วไปวันรุ่งขี้นก็สามารถไปรับวีซ่าได้แล้วการยื่นขอวีซ่าขั้นตอนการยื่นขอวีซ่าสำหรับนักเรียน
  5. เมื่อได้รับการอนุมัติวีซ่าแล้ว ซื้อตั๋วเครื่องบินตามตัวแทนจำหน่ายตั๋วต่างๆ
  6. เดินทาง

หมายเหตุ ระยะเวลาทั้งหมดอาจจะใช้เวลาเป็นเดือนเพราะฉนั้นควรเริ่มยื่นเอกสารเพื่อขอ I20 ตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งถ้าสามารถเดิน ทางมาถึงสหรัฐก่อนวันเรียนเดือนหรือสองเดือนจะดีมากแต่เดินทางมาก่อนวัน เรียนหนึ่งวันก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเราสามารถปรับตัวได้ทันทั้งนี้ขึ้นอยู่กับที่พักว่าเราสามารถเข้าอยู่ ได้เมื่อไรด้วย โดยทั่วไปนักเรียนที่ไม่มีปัญหาเรื่องที่พัก มักจะเดินทางมาตั้งแต่เนิ่นๆ

ตัวอย่างโรงเรียนสอนภาษา

ตัวอย่าง โรงเรียนสอนภาษาข้างล่างนี้ เป็นการยกตัวอย่างให้นักเรียนเห็นภาพของโรงเรียนภาษาในอเมริกา มิได้เป็นการโฆษณาแต่อย่างใด ทางแทนไทยยังมีรายชื่อ โรงเรียนสอนภาษา ในรัฐต่างๆ ซึ่งแต่ละเว็บไซต์ก็มีข้อมูลอีกมากมายให้ศึกษา

โรงเรียนสอนภาษา Kaplan

หลักสูตร English and Test preparation for International Students and Professionals

เป็นโรงเรียนสอนภาษาที่จัดสอนให้กับนักเรียนอเมริกันและนักศึกษาต่างชาติ ซึ่งมีทั้งหลักสูตร Intensive English ,GRE,GMAT… และมีศูนย์อยู่ในเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางการศึกษา สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ Los Angeles

สำหรับโรงเรียนสอนภาษาทั่วไปจะต้องไปโรงเรียนทุกวัน อาจจะไม่เหมาะสำหรับบางคนที่อยากศึกษาด้วยตัวเอง Kaplan จึงได้เปิดหลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับนักศึกษาต่างชาติ เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับพวกเขา หลักสูตรนี้จะมีชั่วโมงที่มีอาจารย์เข้ามาสอน ประมาณ 9 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เวลาที่เหลือก็จะให้นักเรียนศึกษาด้วยตัวเอง โดยทางโรงเรียนจะจัดเตรียมสื่อการเรียนการสอนให้ นักเรียนสามารถเลือกสื่อต่างๆได้ด้วยตัวเอง นักเรียนต้องไปโรงเรียนไม่ต่ำกว่า 22 ชั่วโมงต่อสัปดาห์(ตามกฏหมายสหรัฐสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่ถือวีซ่าแบบ F1 ต้องเรียนไม่น้อยกว่า 22 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ การบันทึกการมาเรียนจะเก็บเอาไว้ทุกครั้งที่มาเรียน ความจริงก็สามารถขาดเรียนได้หากมีความจำเป็นโดยขาดเรียนได้ไม่เกิน 15 ชั่วโมงต่อเดือน หากเกินโรงเรียนอาจจะต้องเชิญออกและอาจจะดำเนินคดีตามกฏหมายนะ ยกเว้นว่ามีหลักฐานว่าป่วยมาไม่ได้จริงๆ) ซึ่งถ้าคิดหักลบจากชั่วโมงที่มีอาจารย์สอนแล้ว ก็จะเป็นเวลาที่ต้องศึกษาด้วยตัวเอง 13 ชั่วโมง ทางโรงเรียนค่อนข้างจะเปิดช่วงเวลาค่อนข้างกว้างเช่น เปิดประมาณ 10.00am และปิดประมาณ 9.00pm ซึ่งถ้าและปกติจะเปิดทุกวัน โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยเช็คเวลาเข้าออกและจัดเตรียมสื่อการเรียนให้ด้วย ชั่วโมงเรียนก็จะมีวันเว้นวัน เช่น เรียนวันจันทร์ พุธ ศุกร์ หรือ อังคาร พฤหัส เสาร์

การเรียนการสอน ก่อนเข้าสู่เนื้อหาทางโรงเรียนจะทดสอบความรู้ของนักเรียนก่อนโดยให้สอบ เหมือนกับการสอบโทเฟล หลังจากนั้นก็จะวิเคราะห์ว่าที่ทำไปได้คะแนนเท่าไร แก้ไขข้อบกพร่องของแต่ละคน อาจารย์ผู้สอนจะสอนเนื้อหาภายในชั่วโมงเรียนและก็จะให้การบ้านค่อนข้างเยอะ นอกจากนั้นก็จะแนะให้ไปอ่านหนังสือประกอบเพิ่มเติม รวมทั้งให้ดูวีดีโอเพื่อศึกษาวัฒนธรรมของคนอเมริกัน(ข้อสอบโทเฟลในส่วนที่ เป็น reading ก็มีบ้างที่เป็นเนื้อหาประวัติศาสตร์อเมริกาหรือวัฒนธรรมของคนอเมริกัน)

ค่าเรียน ค่าเรียนก็จะเท่าๆกันกับโรงเรียนสอนภาษาทั่วๆไปถ้าเป็นคอร์ส TOEFL ก็ประมาณเดือนละ 1000 เหรียญแต่ถ้าเป็นคอร์ส GRE ก็ประมาณเดือนละ 300-400 เหรียญ(ผู้ที่ต้องการลงคอร์ส GRE ต้องทำ TOEFL ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 500 โดยทาง Kaplan จะเทสก่อนให้สมัครเรียน)

ระยะเวลาในการเรียน มีให้เลือกตั้งแต่หนึ่งเดือนเป็นต้นไป

หมายเหตุ นักศึกษา ต่างชาติมักจะเลือกเรียนภาษาตามโรงเรียนสอนภาษาของแต่ละยูมากว่าที่จะเรียน ที่ Kaplan เนื่องจากมีชั่วโมงการสอนเยอะกว่าและสามารถเข้าไปคุยกับอาจารย์ในยูนั้นๆได้ หากมีความประสงค์ที่จะเข้าเรียนในระดับที่ปริญญาโท แต่บางคนอาจจะไม่ชอบเพราะว่าต้องไปเรียนทุกวัน ถ้าขาดเรียนมากกว่าหนึ่งวันต่ออาทิตย์ก็อาจจะมีเจ้าหน้าที่มาเตือนว่าคุณ กำลังจะทำผิดระเบียบผุ้ถือวีซ่า F1 สำหรับความใกล้ชิดกับอาจารย์ที่ Kaplan ก็จะมีน้อยกว่าโรงเรียนทั่วๆไปเนื่องจากว่านักเรียนต้องใช้เวลาในการศึกษา เล่าเรียนด้วยตัวเองมากกว่า

ข้อมูลเพิ่มเติม www.studyusa.kaplan.com

ที่อยู่(สำนักงานใหญ่)
1133 Westwood Boulevard, Suite 2000
Los Angeles, CA 90024
โทร 1800-527-8378
สำหรับเมืองอื่นในสหรัฐมีดังนี
Phoenix-Arizona,Tucson-Arizona,Davis-California,Encino-California,Los Angeles-California,Palo-Alto-California,Riveside-California,San Diego-California,San Francisco-California,San Jose-California,San Barbara-California,Boulder-Colorado,Denver-Colorado,Honolulu-Hawaii,Oklahoma City-Oklahoma,Eugene-Oregon,Portland-Oregon,Austin-Texas,College Station-Texas,Dallas-Texas,Forth Worth-Texas,Houston-Texas,Provo-Utah,Salt Lake City-Utah

ข้อดีและเสียสำหรับการเลือกเรียนที่ Kaplan
ข้อดี สามารถเลือกเวลาที่ไปเรียนได้ ยกเว้นเฉพาะเวลาที่มีอาจารย์สอน(9 ชั่วโมงต่อสัปดาห์) ซึ่งทางโรงเรียนจะกำหนดให้ นอกจากนั้นจะไปเรียนกี่โมงก็ได้แต่ต้องไปให้ครบ 22 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
ข้อเสียสำหรับบางคนที่ไม่ชอบศึกษาด้วยตัวเองคงไม่ได้ประโยชน์เท่ากับ โรงเรียนสอนภาษาที่มีการเรียนการสอนทุกวัน

สถาบันภาษา Marshall University, Charleston, WV
ที่มา: http://www.marshall.edu/leap/
เหตุผลที่ควรเลือกศึกษาหลักสูตร Intensive English Program ที่ Marshall University

  • หลักสูตร Intensive English Program นี้ดำเนินการสอนใน Marshall University ซึ่งเป็น มหาวิทยาลัยชั้นนำที่มีคุณภาพ ประกอบด้วยวิทยาลัยและโรงเรียนวิชาชีพชั้นสูง 9 แห่ง โดยเปิดสอน หลักสูตรปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก มากกว่าร้อยหลักสูตร
  • หลักสูตร Intensive English Program ประกอบด้วยชั่วโมงเรียนทั้งหมด 21 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงทักษะด้านการพูด การฟัง การอ่าน และการเขียนอย่างรวดเร็ว
  • เปิดสอนตลอดทั้งปี โดยหลักสูตร 15 สัปดาห์ จะเริ่มต้นในเดือนกันยายนและมกราคม ส่วนหลักสูตร 10 สัปดาห์จะเริ่มต้นในเดือนมิถุนายน
  • แบ่งการเรียนออกเป็น 3 ระดับ แต่ละชั้นเรียนมีขนาดเล็ก
  • คณาจารย์เปี่ยมด้วยประสบการณ์ มีคุณวุฒิเป็นที่ยอมรับทางด้านภาษาศาสตร์ประยุกต์ หรือ TESOL
  • ผู้สำเร็จหลักสูตร L.E.A.P. ขั้นสูง จะได้รับการยกเว้นการสอบ TOEFL
  • หลักสูตรที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ด้วยค่าธรรมเนียมเพียง 2700 ดอลลาร์สำหรับหลักสูตร 15 สัปดาห์ และ 1800 ดอลลาร์สำหรับหลักสูตร 10 สัปดาห์ในภาคฤดูร้อน และค่าที่พักเดือนละ 350 ดอลลาร์

สถานที่ที่เหมาะสำหรับการศึกษา

นักศึกษา

จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเพลิดเพลินที่ Huntington ในรัฐ West Virginia ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ที่ปลอดภัยและสะดวกสบายในสหรัฐอเมริกา และในบริเวณที่ไม่ไกลไปจากมหาวิทยาลัย มีโรงแรม ศูนย์การค้า ภัตตาคาร โรงภาพยนตร์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และธนาคาร นอกจากนั้น ภายในมหาวิทยาลัย นักศึกษาสามารถใช้บริการของศูนย์การแพทย์ ห้องคอมพิวเตอร์ สระว่ายน้ำในร่ม ศูนย์ฟิตเนส และห้องสมุด

วิชาการ

Marshall University รับนักศึกษาที่ขาดทักษะทางภาษาอังกฤษ แต่ต้องการสมัครเรียนในระดับอุดมศึกษาไปพร้อมๆ กับการเรียนในหลักสูตร L.E.A.P. Intensive English Program นักศึกษาสามารถเลือกสาขาวิชาใน
ระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษาได้มากกว่าร้อยสาขา ไม่ว่าจะเป็นด้านวารสารศาสตร์ ชีววิทยา บริหารธุรกิจ ศึกษาศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือกิจการต่างประเทศ

นักศึกษา

ใน Marshall University มีนักศึกษากว่า 16,000 คน รวมทั้งนักศึกษาต่างชาติ 300 คนจาก 50 ประเทศ ทั้งจากเอเชีย ตะวันออกกลาง ยุโรป และอเมริกาใต้ ในแต่ละภาคการศึกษา มีนักศึกษาโดยเฉลี่ย 45 เปอร์เซ็นต์ ลงทะเบียนเรียนหลักสูตร L.E.A.P. โดยจัดเป็นชั้นเรียนขนาดเล็ก มีนักศึกษาในแต่ละชั้นไม่เกิน 15 คน

การบริการ

ศูนย์หลักสูตรนานาชาติจะให้บริการต่างๆ แก่นักศึกษา รวมถึงกิจกรรมประจำสัปดาห์ โครงการ
ที่พักอาศัย การเดินทางเข้าประเทศ การแนะนำการศึกษาและบริการต่างๆ สำหรับการดำเนินชีวิตของ
นักศึกษาต่างชาติ มีบริการรับนักศึกษาที่เดินทางมาถึงท่าอากาศยาน Tri-State ในเมือง Huntington รัฐ West Virginia โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ

ที่พักและอาหาร

ค่าที่พักและอาหารในหอพักของ Marshall University คิดเป็นเงิน 575 ดอลลาร์ต่อเดือน ประกอบด้วย ห้องพักสำหรับนักศึกษา 2 ท่าน พร้อมอาหาร 19 มื้อต่อสัปดาห์ ใกล้กับบริเวณมหาวิทยาลัยจะมีอพาร์ตเมนต์ ให้เช่าในราคาตั้งแต่ 350 ดอลลาร์ต่อเดือน

กิจกรรม

ในหลักสูตร L.E.A.P. ท่านสามารถเลือกการเดินทางสู่สถานที่ที่น่าสนใจทางด้าน วัฒนธรรมและสันทนาการ ตลอดภาคการศึกษา โดยในช่วงสุดสัปดาห์และช่วงเย็น จะมีการเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ ศูนย์การค้า การแข่งกีฬา การแสดงดนตรี ฯลฯ นักศึกษาสามารถเลือกที่จะขี่ม้า โยนโบว์ลิ่ง ปิกนิก หรือเข้าร่วมกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

ค่าใช้จ่าย

ค่าใช้จ่ายทั้งหมดคิดเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการศึกษาในหลักสูตร .E.A.P. แต่ละภาคการศึกษา อัตราค่าธรรมเนียมที่กำหนดอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

ค่าเล่าเรียน (ภาคฤดูใบไม้ร่วงหรือฤดูใบไม้ผลิ หลักสูตร 15 สัปดาห)์ 2700 ดอลลาร์
ค่าเล่าเรียน (ฤดูร้อน หลักสูตร10 สัปดาห์) 1800 ดอลลาร์
ค่าที่พัก-อาหารในเขตมหาวิทยาลัย (ภาคฤดูใบไม้ร่วงหรือฤดูใบไม้ผลิ) – 2300 ดอลลาร์
ค่าที่พัก-อาหารนอกเขตมหาวิทยาลัย (ภาคฤดูใบไม้ร่วงหรือฤดูใบไม้ผลิ) 1500 ดอลลาร์ขึ้นไป ค่าที่พัก-อาหารในเขตมหาวิทยาลัย (ภาคฤดูร้อน) – 1500 ดอลลาร์
ค่าที่พัก-อาหารนอกเขตมหาวิทยาลัย (ภาคฤดูร้อน) – 1000 ดอลลาร์ขึ้นไป

การรับสมัคร

เมื่อได้รับใบสมัครของท่านพร้อมเอกสารแนบอย่างครบถ้วนแล้ว เราจะส่งใบตอบรับการศึกษาหลักสูตร L.E.A.P. อย่างเป็นทางการ พร้อมแบบฟอร์ม I-20 เพื่อใช้ขอวีซ่าสำหรับนักศึกษา (F3) ที่สถานทูต หรือสถานกงสุลของสหรัฐฯ